มศว.แจ้งรับตรงเดือนส.ค.กว่า2พันคน
หน้า 1 จาก 1
มศว.แจ้งรับตรงเดือนส.ค.กว่า2พันคน
ศ.ดร. วิรุณ ตั้งเจริญ อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) เปิดเผยถึงกำหนดสอบเข้าเรียนระดับปริญญาตรี ปีที่ 1 สอบตรงประจำปีการศึกษา 2553ว่า มศว ยังใช้ช่วงเวลาเดิมในการประกาศรับนักเรียนเพื่อเข้าเรียนเป็นนิสิต
รับนิสิตใหม่ในช่วงเดือน สิงหาคม - กันยายน 2552 จำนวน 2,500 คน และจะรับนิสิตในระบบแอดมิชชั่นกลางจำนวน 1,500 คน การที่ มศวกำหนดช่วงเวลาเดิมเพราะเราไม่อยากขยับช่วงเวลาเพื่อแย่งชิงนักเรียนเข้าเรียนกันมากเกินไป และตนก็ไม่อยากเห็นมหาวิทยาลัยเก่าแข่งกันรับตรงมากเกินความจำเป็น อย่างไรสถิติการรับตรงก็ของแต่ละมหาวิทยาลัยมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นทุกปี
มศว.จำนวนรับตรงคิดเป็นตัวเลข 59 – 60 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่มหาวิทยาลัยในต่างจังหวัดมียอดการรับตรงถึง 80 เปอร์เซ็นต์ แม้ว่าที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) จะพยายามคุมตัวเลขการรับตรงและแอดมิชชั่นกลางให้อยู่ในอัตราส่วน 50 : 50 แต่ในความเป็นจริงกลับพบว่าแต่ละมหาวิทยาลัยรับตรงเกินอัตราส่วนที่ทปอ.กำหนดไว้ทั้งสิ้น เพราะแต่ละมหาวิทยาลัยโดยเฉพาะในมหาวิทยาลัยต่างจังหวัดมีอิสระในการรับตรงหลายรูปแบบ เพื่อเปิดโอกาสให้กับกลุ่มเยาวชนที่มีลักษณะหลากหลายได้เข้าสู่การเรียนต่อในระดับปริญญาตรีมากขึ้น
“แม้ว่าแนวโน้มตัวเลขการสอบตรงแต่ละมหาวิทยาลัยมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น เมื่อตัวเลขการสอบตรงของแต่ละมหาวิทยาลัยมีจำนวนสูงขึ้น ทางทปอ.และสกอ.ควรจะหาวิธีการร่วมกันเพื่อไม่ให้เด็กวิ่งสอบในหลายสถาบัน จนเกิดเป็นความวุ่นวายขึ้นในระบบสอบตรง อาจต้องกำหนดให้นักเรียนแต่ละคนสอบตรงได้ไม่เกิด 2 – 3 สถาบัน แม้ว่าตัวเลขการสอบตรงมีจำนวนสูงขึ้นแต่ก็ไม่ทำให้ตัวเลขการสอบในระบบแอดมิชชั่นกลางกระทบมากนัก เนื่องจากการสอบร่วมในวิชาชีพต่างๆ ยังมีการรวมกลุ่มกันอยู่ ทั้งนี้ผมยังเห็นด้วยว่าระบบการสอบเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยควรจะมีทั้งการสอบตรงและระบบแอดมิชชั่นกลางควบคู่กันไป”
ศ.ดร.วิรุณ กล่าวอีกว่าในการสอบตรงของมศว ในปีการศึกษา 2553 นี้ มศว จะประกาศรับเพียงรอบเดียว และจะไม่รับเพิ่ม ทั้งนี้เราจะประกาศรับผู้ที่สอบได้ในลำดับสำรองเพิ่มขึ้นกกว่าปีการศึกษาที่ผ่านมา เพื่อแก้ปัญหาเด็กสละสิทธิ์เข้าเรียนเมื่อสอบเข้าเรียนได้ในหลายสถาบัน
รับนิสิตใหม่ในช่วงเดือน สิงหาคม - กันยายน 2552 จำนวน 2,500 คน และจะรับนิสิตในระบบแอดมิชชั่นกลางจำนวน 1,500 คน การที่ มศวกำหนดช่วงเวลาเดิมเพราะเราไม่อยากขยับช่วงเวลาเพื่อแย่งชิงนักเรียนเข้าเรียนกันมากเกินไป และตนก็ไม่อยากเห็นมหาวิทยาลัยเก่าแข่งกันรับตรงมากเกินความจำเป็น อย่างไรสถิติการรับตรงก็ของแต่ละมหาวิทยาลัยมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นทุกปี
มศว.จำนวนรับตรงคิดเป็นตัวเลข 59 – 60 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่มหาวิทยาลัยในต่างจังหวัดมียอดการรับตรงถึง 80 เปอร์เซ็นต์ แม้ว่าที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) จะพยายามคุมตัวเลขการรับตรงและแอดมิชชั่นกลางให้อยู่ในอัตราส่วน 50 : 50 แต่ในความเป็นจริงกลับพบว่าแต่ละมหาวิทยาลัยรับตรงเกินอัตราส่วนที่ทปอ.กำหนดไว้ทั้งสิ้น เพราะแต่ละมหาวิทยาลัยโดยเฉพาะในมหาวิทยาลัยต่างจังหวัดมีอิสระในการรับตรงหลายรูปแบบ เพื่อเปิดโอกาสให้กับกลุ่มเยาวชนที่มีลักษณะหลากหลายได้เข้าสู่การเรียนต่อในระดับปริญญาตรีมากขึ้น
“แม้ว่าแนวโน้มตัวเลขการสอบตรงแต่ละมหาวิทยาลัยมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น เมื่อตัวเลขการสอบตรงของแต่ละมหาวิทยาลัยมีจำนวนสูงขึ้น ทางทปอ.และสกอ.ควรจะหาวิธีการร่วมกันเพื่อไม่ให้เด็กวิ่งสอบในหลายสถาบัน จนเกิดเป็นความวุ่นวายขึ้นในระบบสอบตรง อาจต้องกำหนดให้นักเรียนแต่ละคนสอบตรงได้ไม่เกิด 2 – 3 สถาบัน แม้ว่าตัวเลขการสอบตรงมีจำนวนสูงขึ้นแต่ก็ไม่ทำให้ตัวเลขการสอบในระบบแอดมิชชั่นกลางกระทบมากนัก เนื่องจากการสอบร่วมในวิชาชีพต่างๆ ยังมีการรวมกลุ่มกันอยู่ ทั้งนี้ผมยังเห็นด้วยว่าระบบการสอบเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยควรจะมีทั้งการสอบตรงและระบบแอดมิชชั่นกลางควบคู่กันไป”
ศ.ดร.วิรุณ กล่าวอีกว่าในการสอบตรงของมศว ในปีการศึกษา 2553 นี้ มศว จะประกาศรับเพียงรอบเดียว และจะไม่รับเพิ่ม ทั้งนี้เราจะประกาศรับผู้ที่สอบได้ในลำดับสำรองเพิ่มขึ้นกกว่าปีการศึกษาที่ผ่านมา เพื่อแก้ปัญหาเด็กสละสิทธิ์เข้าเรียนเมื่อสอบเข้าเรียนได้ในหลายสถาบัน
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ